"สนิทกันมากขึ้น ไม่ได้แปลว่าจะคิดถึงใจเค้าน้อยลงได้"
เคยสังเกตมั้ยว่า
ไม่ว่าจะความสัมพันธ์แบบไหนรอบๆตัวเรา แรกๆเมื่อเริ่มรู้จักกัน เรามักจะทะนุถนอมความสัมพันธ์นั้นเป็นอย่างมาก
เราจะควบคุมอารมณ์ได้ดี จะพูด จะทำอะไรแต่ละอย่างก็จะผ่านการคิดแล้วคิดอีก กลัวเพื่อนไม่พอใจ กลัวแฟนไม่ชอบ ไตร่ตรองทุกการกระทำเสมอเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียน้ำใจ
แต่เวลาผ่านไป เรากลับค่อยๆลืมสิ่งที่เราเป็นในตอนแรก อาจจะเพราะสนิทกันแล้ว หรือเริ่มไว้ใจอีกฝ่ายแล้ว เราจึงเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เราทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการมากขึ้น แต่กลับคิดถึงใจอีกฝ่ายน้อยลง นั่นเป็นเพราะเมื่อเราเริ่มใกล้ชิดกับใครถึงจุดที่สนิทใจ
ความเกรงใจของเราก็จะเริ่มน้อยลง
เรารู้สึกว่าเราสามารถพูดทุกสิ่งที่เราคิด เราหงุดหงิดง่ายๆกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำ เราใส่อารมณ์กับคนที่เรารัก เพราะคิดว่าสนิทกันมากขึ้น อีกฝ่ายก็ต้องเข้าใจเรามากขึ้น
หลายคนสูญเสียความสัมพันธ์ที่ดีไปเพราะการวางใจในความสนิท ละเลยความรู้สึกของเพื่อน ของแฟน หรือแม้แต่ของครอบครัว เพราะคิดว่าคนพวกนี้คือคนที่เรารัก คิดว่าคนพวกนี้คือคนที่รักเรา และคนพวกนี้ต้องเข้าใจเราและจะอยู่กับเราเสมอ
"กูก็เป็นแบบนี้แหละเป็นเพื่อนกันก็ต้องรู้ป้ะวะ?"
"รู้จักกันมาตั้งนานแล้วยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่ากูเป็นคนแบบไหน?"
ถูกต้อง คนรักกัน สนิทกัน รู้จักกันมานานก็ต้องเข้าใจกัน และความจริงแล้วเหล่าคนที่รักเราตรงนี้ก็พร้อมเข้าใจเราเสมอ
แต่ไม่ใช่ตลอดไป
หลายอย่างที่เราทำเพราะวางใจในความรักที่เค้ามีให้เรา อาจบั่นทอนจิตใจของคนเหล่านี้โดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว ความรักมีจำกัด และความเข้าใจก็เช่นกัน ในวันหนึ่งมันอาจจะสะสมมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการห่างเหินกันไป
สนิทมาก แคร์มาก ไม่ได้แปลว่าจะคิดถึงใจพวกเค้าน้อยลงได้
รักมาก = เกรงใจกันให้มาก
รัก
ช่า บันทึกของตุ๊ด